T3 Technology จับมือ Tuya Smart ร่วมแถลงข่าวลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการกำหนดยุทธศาสตร์พัฒนาแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ รวมถึงการวางแผนและออกแบบผลิตภัณฑ์ IoT อีกทั้งขยายระบบนิเวศหรืออีโคซิสเต็มส์เพื่อรองรับ IoT รวมไปถึงการใช้งานระบบคลาวด์และอื่นๆ เพื่อผลักดันให้ T3 Technology ก้าวสู่ความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม IoT ของประเทศไทยภายใน 3 ปี และเตรียมรุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มตัว โดยมีนาย ลีโอ ยู (Mr. Leo Yu) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ T3 Technology และ นางสาวอีวา นา (Miss Eva Na) รองประธานฝ่ายการตลาดและความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ และ CMO บริษัท Tuya Smart จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว
ภาพเซ็นสัญญาที่ประเทศไทย
ภาพเซ็นสัญญาประเทศจีน
นาย Leo Yu ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท T3 Technology จำกัด ผู้ให้บริการด้านโซลูชั่นโทรคมนาคมชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า “ ในฐานะผู้นำทางด้านเทคโนโลยีในประเทศไทย T3 Technology ดำเนินธุรกิจโดยยึดถือลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างเสมอมา โดยเน้นเจาะกลุ่มตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ โฮมเทอร์มินอล, Smart IoT และโซลูชั่นระบบโทรคมนาคมแบบ end-to-end ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์กลุ่มโฮมเทอร์มินอลซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในประเทศไทย โดยเรามีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ธุรกิจกลุ่มนี้ และกลุ่ม Smart IoT ขึ้นเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้ภายใน 3 ปีข้างหน้า ดังนั้นการลงนามความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยยกระดับสินค้าและบริการให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น รวมถึงสร้างมูลค่าของ IoT ให้ตอบโจทย์ลูกค้าและผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์”
นาย Leo Yu ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท T3 Technology จำกัด
ปัจจุบัน อุตสาหกรรม IoT ทั่วโลกมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารแบบ 5G ปัญญาประดิษฐ์ และการประมวลผลที่ทันสมัย ในปี 2563 ตลาดอุปกรณ์สมาร์ทโฮมทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 130 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่าในปี 2567 จะมีการส่งมอบอุปกรณ์ IoT ทั่วโลกมากกว่า 1.4 พันล้านชิ้น ด้วยนโยบายการสนับสนุนของรัฐบาลไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้อุตสาหกรรม IoT ของประเทศไทยพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จากการสำรวจของ Asian IoT Business Platform พบว่า 89% ของบริษัทในประเทศไทยได้ใช้โซลูชัน IoT มากเป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และนับว่าเป็นผู้บุกเบิกในการนำโซลูชัน IoT มาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรมและการผลิต ซึ่งศักยภาพของประเทศไทยและในตลาดอาเซียนจะดึงดูดให้มีผู้เล่นชั้นนำในตลาดระดับโลกเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น
ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันโทรคมนาคมชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ T3 Technology ได้ให้บริการลูกค้ามากกว่า 2 ล้านครัวเรือนและผู้ใช้งานกว่า 8 ล้านคน ด้วยความสามารถในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง ตลอดจนระบบบริการแบบ end-to-end ทำให้ T3 Technology มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากด้านอุปกรณ์สื่อสารไฮเทคในประเทศไทย โดยบริษัทฯ ได้วางรากฐานและสร้างตลาดกลุ่มโทรคมนาคมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการเข้าถึงความต้องการของตลาดอย่างแม่นยำ ตลอดจนโปรโมทกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 กลุ่มอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับโซลูชั่น 5G ถือว่าเป็นตลาดใหม่ที่ได้ส่วนแบ่งสูงสุด ขณะที่ Smart IoT ก็ได้เจาะกลุ่มองค์กรชั้นนำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โลตัส เซเว่น-อีเลฟเว่น ตลอดจนผู้ประกอบการรายใหญ่ที่นำมาใช้งานทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
ทางด้านนางสาว Eva Na รองประธานฝ่ายการตลาดและความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ และCMO ของบริษัท Tuya Smart จำกัด ผู้นำแพลตฟอร์ม AIoT ชั้นนำระดับโลก กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้อย่างมั่นใจว่า “Tuya ยึดมั่นในคุณค่า "ความสำเร็จของลูกค้า" มาโดยตลอด เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการก้าวสู่ความเป็นผู้นำไปด้วยกัน และเติมเต็มทางด้านอีโคซิสเต็ม ดังนั้นการร่วมเป็นพันธมิตรกันในครั้งนี้กับ T3 Technology จะช่วยส่งเสริมอุปกรณ์อัจฉริยะและโซลูชันด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับตกแต่งบ้าน สำหรับการพาณิชย์ ตลอดจนด้านระบบวิศวกรรม ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ T3 Technology กลายเป็นองค์กรมาตรฐานและเป็นแบรนด์อันดับหนึ่ง ในอุตสาหกรรม IoT ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามเป้าหมาย”
นางสาว Eva Na รองประธานฝ่ายการตลาดและความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ และCMO ของบริษัท Tuya Smart จำกัด
Tuya Smart เป็นแพลตฟอร์มการพัฒนา IoT ระดับโลก หลังจากเร่งรัดพัฒนาแพลตฟอร์มภายในเวลา 7 ปี ก็สามารถรวบรวมนักพัฒนาเข้ามาในระบบมากกว่า 384,000 ราย โดยในแต่ละวันมีการโต้ตอบด้วยเสียง AI มากกว่า 122 ล้านครั้ง มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 410,000 รายการที่อยู่ภายใต้ 'Powered by Tuya' ซึ่งสินค้าและบริการต่างๆ เหล่านี้ มีวางจำหน่ายและใช้งานครอบคลุมกว่า 220 ประเทศในทุกภูมิภาค ครอบคลุมช่องทางการจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์มากกว่า 100,000 ช่องทางทั่วโลก
นาย David Chen รองประธานบริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท T3 Technology จำกัด
นอกจากนี้ นาย David Chen รองประธานบริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท T3 Technology จำกัด ได้กล่าวเสริมว่า “แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากโรคระบาด แต่อุตสาหกรรม IoT กลับเติบโตและมีศักยภาพมากขึ้น โดย T3 Technology ได้เปิดทุกช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ด้าน IoT ให้สามารถใช้งานได้ในประเทศไทย อินโดนีเซีย ปากีสถาน ฯลฯ อีกทั้ง T3 Technology ยังคงสร้างแบรนด์ ออกแบบ และผลิตสินค้าของตัวเอง รวมถึงจัดการระบบซัพพลายเชน ตลอดจนการส่งเสริมการตลาด และการให้บริการทางเทคนิคในแต่ละประเทศอีกด้วย โดยการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า T3 Technology จะร่วมมือกับ Tuya Smart ในการพัฒนาอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อัจฉริยะ การพัฒนาแอปพลิเคชั่น และคลาวด์แพลตฟอร์ม เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีของ T3 Smart IoT โดยจะครอบคลุมทุกช่องทางการจำหน่ายไม่ว่าจะเป็นอีคอมเมิร์ซ ผู้ประกอบการรายย่อย เครือข่ายค้าปลีกขนาดใหญ่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายเครื่องใช้ในบ้าน ร้านขายของตกแต่งบ้าน ร้านไอที และร้านค้าอื่น ๆ อีกทั้งยังจะนำเสนอสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและเพลิดเพลินไปกับเทคโนโลยีใหม่ๆ”
นาย Ross Luo ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคของ บริษัท Tuya Smart จำกัด
ทั้งนี้ นาย Ross Luo ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคของ Tuya Smart ยังกล่าวเสริมว่า“ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีประชากรมากกว่า 650 ล้านคน โดยประชากรที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีคิดเป็น 33.8% ของประชากรทั้งภูมิภาค ซึ่งคนรุ่นใหม่พร้อมที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างไม่ลังเล และคนกลุ่มนี้คือกลุ่มเป้าหมายหลักของผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮมต่างๆ กอปรกับความนิยมของสมาร์ทโฟน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางอินเทอร์เน็ต และอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือที่มีความรวดเร็วมากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยผลักดันการพัฒนาของอุตสาหกรรม IoT โดยทาง Tuya ได้ให้บริการด้าน IoT สำหรับเครือข่ายของพันธมิตรทุกราย ทั้งการสร้างมูลค่า และสร้างการเชื่อมต่อถึงกันอย่างชาญฉลาด เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันให้ T3 Technology กลายเป็นแบรนด์ IoT ชั้นนำในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ในที่สุด”
ปัจจุบัน รัฐบาลไทยได้พยายามส่งเสริมกลยุทธ์เศรษฐกิจใหม่ภายใต้ “ยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0” ซึ่งจะปรับโฉมเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของไทยจากการพึ่งพาการผลิตแบบเดิม ๆ สู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ดังนั้น การส่งเสริมการพัฒนา IoT จึงกลายเป็นภารกิจสำคัญ โดยมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2573 ตลาด IoT ของประเทศไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 2.19 พันล้านเหรียญสหรัฐ และจะทำให้ประเทศไทยเป็นต้นแบบในอาเซียน ด้วยความสำเร็จดังกล่าวจะทำให้ T3 Technology และ Tuya Smart มีโอกาสขยายบริการไปยังตลาดประเทศอื่นๆ ในอาเซียนได้ในอนาคต อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งประเทศเหล่านี้ ยังมีโอกาสเติบโตขึ้นไปได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการบูรณาการทางนิเวศวิทยาในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการขยายตลาดสู่ระดับโลกต่อไป
หน้าจอการลงนามผ่าน Cloud
การประชุมจากฝั่งประเทศไทย
การประชุมจากฝั่งประเทศจีน
นาย David Chen รองประธานบริหารฝ่ายเทคโนโลยี กับ แบรนด์แอมบาสเดอร์
T3 Technology แบรนด์แอมบาสเดอร์